ผู้จัดการ ตุ้ย ธีรภัทร์ ยืนยันข่าวหย่า นาตาชา ด้านพ่อ ‘บิ๊กหอย’ ไม่เชื่อเป็นข่าวจริง

ผู้จัดการ ตุ้ย ธีรภัทร์ ยืนยันข่าวหย่า นาตาชา ด้านพ่อ ‘บิ๊กหอย’ ไม่เชื่อเป็นข่าวจริง

วานนี้ (30 ส.ค.) มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการหย่าร้างของคู่รักดาราที่แต่งงานกันมายาวนานถึง 11 ปีอย่าง ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล กับ แอนนา นาตาชา เปลี่ยนวิถี โดยทางผู้จัดการของตุ้ย ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า เป็นไปตามข่าว ทั้งคู่หย่ากันมาประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ส่วนเรื่องสาเหตุการหย่าร้างนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว เวลาเจอตุ้ยก็จะคุยกันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ตุ้ย ธีรภัทร์ และ นาตาชาได้เข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2551 และมีบุตรชายด้วยกัน 1 คนคือ น้องไตตั้น

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการยืนยันข่าวการหย่าร้าง ทั้งคู่ก็มีกระแสข่าวลือเรื่องเตียงหักมาแล้ว แต่ก็ยังมีการปฏิเสธมาตลอดทั้งจากทั้งคู่เอง และจากคนใกล้ชิด ด้านพ่อของตุ้ย ธีรภัทร์ อย่าง บิ๊กหอย หรือ นายวนัสธนา สัจจกุล ก็ออกมาเผยว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง

“ข่าวแยกทางของลูกชายกับภรรยา ไม่จริงหรอก ทะเลาะกันปกติเดี๋ยวก็เห็นเขาไปจู๋จี๋กันครับ(หัวเราะ)” และ “ไม่จริงๆ ถ้าเลิกกันผมก็ต้องรู้สิ ยืนยันว่าไม่เลิกกันแน่นอน เวลาถามตุ้ยว่าเป็นยังไง เขาก็ตอบว่า….เหมือนเดิมป๋า ล่าสุดได้คุยโทรศัพท์กันเมื่อไม่กี่วันนี่เอง ไม่ได้มีระแคะระคายหรือพูดคุยถึงเรื่องนี้เลย”

 บิ๊กหอยก็กล่าวต่อว่า มีการระบุในกระแสข่าวด้วยว่าที่เลิกกันเป็นเพราะเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจ ซึ่งไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะปัญหาธุรกิจก็คงมีบ้าง ทุกคนอยู่ในวงการบันเทิงหมด แต่เรื่องอื่นไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนตัวลูกชายทำงานกลับบ้านดึกๆ ก็อาจจะโดนภรรยาบ่นบ้าง ซึ่งตนเองก็เคยโดนภรรยาซึ่งก็คือแม่ของตุ้ยว่าเหมือนกัน

นอกจากนี้ บิ๊กหอย กล่าวว่า ตนไม่ค่อยได้มีเวลาพูดคุยกันมากนัก เพราะตุ้ยไม่ค่อยอยู่บ้าน ฉะนั้นเวลาที่อยู่บ้านก็อยากจะใช้ชีวิตส่วนตัวกับภรรยา ทำให้ไม่ได้พูดคุยกันนัก นอกจากโอกาสสำคัญอย่าง วันเกิดใครคนใดคนหนึ่ง หรือวันพิเศษต่างๆ ก็อาจมีการรับประทานอาหารร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา

บิ๊กหอยยืนยันว่า หากตุ้ยเลิกกับนาตาชาจริงๆ ก็จะต้องรับรู้แล้ว และต่อให้ไม่บอกกับตนก็ต้องบอกกับภรรยา ซึ่งตัวเองและภรรยาก็ไม่ได้ระแคะระคายข่าวนี้เลย ตนเพิ่งเจอภรรยา กินข้าวด้วยกัน แต่ก็ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ทุกอย่างดูเป็นปกติดี และจริงๆ ก็มีข่าวทำนองนี้ออกมาหลายปีแล้ว

 “ในฝั่งของเรายืนยันว่าไม่หย่าเพราะลูกชายไม่ได้บอกอะไร แบบนี้คือต้องรอฟังตุ้ยยืนยันอีกทีใช่ไหม โถ…ไปถามอะไรตุ้ย สมมติเฉยๆ เกิดไปถาม ถ้าหย่าจริงแล้วไม่บอกพ่อมัน มันจะไปบอกหนูได้ยังไงล่ะ(หัวเราะ) ผมคงแบบเฮ้ย! ตุ้ยเลิกกับเมียแล้วไม่บอกได้ไงวะ ฉะนั้นไม่มีอยู่แล้ว ถ้ามันเลิกกับเมียมัน มันก็ต้องบอกพ่อบอกแม่มันสิ”

ปะทะคารมเดือด แม่อุ้มลูกน้อยทิ้งวัดวิวาทชาวบ้านที่มาขวาง

วานนี้ (5 ก.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Rango Dark โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ที่แม่รายหนึ่งนำลูกที่ยังเป็นเด็กทารกมาที่วัดนก ย่านบางแวก เขตภาษีเจริญ โดยตั้งใจจะนำมาทิ้ง แต่มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทนไม่ได้ก็ได้เข้าไปช่วยเด็กทารกรายดังกล่าวเอาไว้ แล้วอุ้มเข้ามาในวัด โดยกลุ่มชาวบ้านได้ต่อว่าผู้เป็นแม่เด็กที่ใจร้ายนำลูกมาทิ้ง จนทั้งสองฝ่ายเริ่มเกิดการวิวาทะลุกลามเป็นการปะทะคารมอย่างเดือด

ฝ่ายผู้เป็นแม่ถามกลับชาวบ้านอย่างท้าทายว่า ‘เอามาทิ้งแล้วจะทำไม’ โดยหลังจากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาไกล่เกลี่ย ทำให้แม่รายนี้ยอมอุ้มลูกกลับไป หลังจากที่คลิปวีดิโอเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง ก็มีผู้คนเข้ามาวิพาษ์วิจารณ์แม่รายนี้จำนวนมาก

‘กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ’ เตรียมรวมตัวไล่ ผู้บริหารกทม. เหตุห้ามจจย.ลงอุโมงค์-ขึ้นสะพาน วันนี้ (6 ก.ย.) กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ ได้นัดรวมตัวสมาชิกเพื่อเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ผู้บริหารชุดปัจจุบันลาออก เพราะไม่สามารถแก้ปัญหารถจักรยานยนต์ใช้อุโมงค์และสะพานร่วมกับรถชนิดอื่นได้ โดยในข้อความมีประกาศว่า ‘ประกาศนัดหมาย วันอาทิตย์ ที่ 8 ก.ย.นี้ ถนนทุกสายจะมุ่งหน้าสู่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อขับไล่ ผู้บริหาร ชุดปัจจุบันออก’

ทากลุ่มระบุว่า ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ได้เข้ายื่นหนังสือต่อหน่วยงานต่างๆ ซึ่งรวมถึงกทม.ด้วย เพื่อให้สร้างสะพานและอุโมงค์ที่สามารถให้รถจักรยานยนต์ใช้ร่วมกับรถชนิดอื่นได้อย่างปลอดภัย แต่ผู้บริหารกทม.ชุดปัจจุบันเพิกเฉยและไม่ใส่ใจแก้ปัญหา โดยยังเดินหน้าก่อสร้างสะพานและอุโมงค์ ที่ห้ามรถจักรยานยนต์ใช้ ทั้งๆ ที่ผู้บริหารที่ดีควรบริหารจัดการสาธารณสมบัติ เพื่อให้คนทุกกลุ่มใช้ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

 ทางกลุ่มจึงเห็นว่าผู้บริหารกทม.ชุดนี้ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะบริหารจัดการสาธารณสมบัติทางถนน จึงขอเรียกร้องให้ผู้บริหารทั้งชุดพิจารณาตัวเองด้วยการลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าเข้ามาแก้ไขปัญหา

และทิ้งท้ายด้วยการเชิญชวนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคนเดือดร้อนจากการก่อสร้างสะพานและอุโมงค์ที่ไม่อนุญาตให้รถจักรยานยนต์ใช้ ให้ไปรวมตัวกันที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ ที่ 8 ก.ย. เวลา 11.00 น.